ถ้าเราลากเส้นตรงออกไปจากจุดหนึ่งโดยรอบ มากเส้นหรือน้อยก็ตาม ให้อยู่ในระนาบใดรอบจุดนั้นก็ตาม แต่ละเส้นนั้น เรียกว่า รังสี แสงแดด จากดวงอาทิตย์ แสงจันทร์จากดวงจันทร์ แสงสว่างจากไส้หลอดไฟฟ้า จากไส้ตะเกียง หรือจากดวงไฟในประภาคาร ชายฝั่งทะเล ก็ประกอบด้วยรังสีของแสงสว่างจำนวนมากนับไม่ถ้วน
ในทางวิทยาศาสตร์ คำว่า "รังสี" จะหมายถึง รังสีของแสงสว่าง ที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่าก็ได้ หรือจะหมายถึง รังสีของพลังงาน ที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าก็ได้ รังสีเอกซ์ หรือที่เรียกกันทั่วๆ ไป อย่างแพร่หลายว่า เอกซเรย์ ก็เป็นพลังงานรูปหนึ่ง เช่นเดียวกับแสงสว่าง แต่เป็นชนิดที่เราไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า รังสีเอกซ์นี้ไม่ได้เกิดเองตามธรรมชาติ มนุษย์ต้องสร้างขึ้น โดยใช้เครื่องมือชนิดหนึ่ง เรียกว่า เครื่องเอกซเรย์
เมื่อเราป่วยไข้ เราได้ยินเสมอๆ ว่า แพทย์สั่งให้เราไปเอกซเรย์ เพื่อหาสาเหตุว่า เราป่วยเป็นอะไร เมื่อเราไปเอกซเรย์ เจ้าหน้าที่ซึ่งเรียกว่า พนักงานรังสีวิทยา ก็จะพาเราเข้าห้องเอกซเรย์ ฉายรังสีเอกซ์ทะลุตัวเราไปถูกฟิล์มเอกซเรย์ ซึ่งเหมือนกับถ่ายรูป แต่แผ่นใหญ่กว่า แม้รังสีเอกซ์จะผ่านทะลุตัวเรา แต่เราก็จะไม่รู้สึกอะไรเลย ต่อมา เจ้าหน้าที่ก็นำฟิล์มไปล้างตามกรรมวิธีในห้องมืด ไม่ช้าก็ได้รูปตัวเราออกมา มองเห็นเนื้อหนัง กระดูก ตับ ไต ไส้พุงต่างๆ ปรากฏอยู่บนฟิล์มเอกซเรย์ รังสีแพทย์ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญในการใช้รังสีเอกซ์ทางแพทย์ จะเป็นผู้อ่านฟิล์มเหล่านั้น เพื่อทำรายงานการวินิจฉัยว่า เรามีโรคหรือสิ่งผิดปกติใดๆ อยู่ในร่างกายหรือไม่ เมื่อแพทย์ผู้รักษาได้อ่านรายงาน ของรังสีแพทย์แล้ว ก็จะรักษาโรคของเราได้ถูกทาง ด้วยเหตุนี้ จึงนับได้ว่า รังสีวิทยามีประโยชน์มากมาย และจำเป็นอย่างยิ่ง ในการแพทย์แผนปัจจุบัน