เล่มที่ 15 สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ
ปัญหาสิ่งแวดล้อมระดับสากล
เล่นเสียงเล่มที่ 15 สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ ปัญหาสิ่งแวดล้อมระดับสากล
สามารถแชร์ได้ผ่าน :
            เด็กๆ ลองนึกถึงสิ่งแวดล้อมที่อยู่รอบๆ ตัวเรา ว่ามีอะไรบ้าง บางคนอาจนึกถึงสิ่งที่อยู่ใกล้ตัวที่สุดก่อน เช่น เพื่อนสนิท สัตว์ที่เลี้ยงไว้ หรือต้นไม้ที่ปลูกไว้ในบ้าน แต่เด็กบางคนอาจจะนึกไปถึงสิ่งของเครื่องใช้ภายในบ้าน เช่น วิทยุ โทรทัศน์ ตู้เย็น และบางคนอาจนึกถึง ดิน น้ำ อากาศ หรือโรงงานต่างๆ ทั้งหมดที่กล่าวมาถือเป็นสิ่งแวดล้อมรอบตัวเราได้ทั้งสิ้น
            และถ้าจะถามต่อไปว่า ที่กล่าวกันว่า สิ่งแวดล้อมเสีย หรือเป็นพิษนั้น เด็กๆ เข้าใจกันอย่างไร

            เด็กแต่ละคน ก็อาจจะนึกถึงสภาพสิ่งแวดล้อมที่แตกต่างกันออกไป เช่น บางคนอาจจะนึกถึงน้ำในแม่น้ำลำคลองที่เน่าเสีย น้ำขุ่นข้น ด้วยโคลนตม และขยะมากมาย จะใช้อาบ หรือใช้ดื่มกินเหมือนแต่ก่อนนั้นไม่ได้ บางคนอาจจะบอกว่า ปัจจุบันดินที่ใช้ปลูกพืชนั้นเสีย เพาะปลูกพืชก็ไม่เจริญเติบโต เด็กบางคนอาจจะนึกถึงอากาศที่หายใจ ในชุมชนที่แออัด ไม่สดชื่นเหมือนในชนบทในที่ที่มีทุ่งนา ป่าเขา โล่งกว้าง ที่มีผู้คนอยู่กันไม่มากนัก เพราะกลิ่นที่ไม่สดชื่นนั้น มีกลิ่นเหม็นของขยะที่มนุษย์นำมากองสุมกันไว้ และยังมีกลิ่นเหม็นจากควันรถยนต์ และจักรยานยนต์ นอกจากนั้นก็มีเขม่าและควันไฟจากปล่องของโรงงานอุตสาหกรรมอีกมากมาย เหล่านี้เป็นสิ่งที่อยู่ใกล้ตัวเรา
            คงยังจำกันได้ถึงน้ำท่วม และลมพายุในภาคใต้ ซึ่งทำให้ผู้คน ตลอดจนวัว ควาย สัตว์เลี้ยง ล้มหายตายจากเป็นจำนวนมาก แท่นขุดเจาะน้ำมันในอ่าวไทยพลิกคว่ำ และเรือกสวนไร่นาล่มเสียหาย ครั้น พ.ศ. ๒๕๓๓ น้ำไหลบ่ามาท่วมภาคกลางเป็นเวลานาน ทำลายบ้านเรือน ถนนหนทาง สะพาน และพืชผัก ตลอดจนข้าวปลาอาหาร
            น้ำมากมายมหาศาลนี้มาจากไหน ทำไมจึงเกิดขึ้นบ่อยครั้ง และลมพายุแรงที่ไม่เคยพบเคยเห็นอีกเล่า หรือเป็นเพราะเราช่วยกันตัดไม้ทำลายป่า และทำให้สิ่งแวดล้อมเป็นพิษคนละไม้คนละมือ คำตอบ ก็คือว่า ป่าไม้ที่หายไป และพิษภัยในสิ่งแวดล้อมเริ่มแสดงผล เป็นปัญหาในวงกว้างเกินกว่าที่เคยคิดกันไว้ ไกลจากตัวเราออกไป กระทบต่อเพื่อนบ้าน เพื่อนร่วมโลก และย้อนกลับมากระทบตัวเราด้วยในที่สุด
            มนุษย์เรายังช่วยกันสร้างมลพิษขึ้นมา จนกระทั่งทำลายสิ่งแวดล้อมตามธรรมชาติให้เสียไปใช่หรือไม่ ถ้าใช่ แล้วใครจะเป็นผู้แก้ไขสภาพแวดล้อมที่เสียไป ให้กลับคืนสู่สภาพที่ดีขึ้นได้ คำตอบ ที่ทำได้ และทำง่ายที่สุดก็คือ เด็กทุกคนจะต้องช่วยกันแก้ไขเสียตั้งแต่วันนี้ จะทำให้ปัญหาสิ่งแวดล้อมเป็นพิษลดลงได้มากในวันข้างหน้า ถ้าเด็กทุกคนเห็นด้วย พร้อมและเต็มใจที่จะช่วยกันลดมลพิษในสิ่งแวดล้อม จงปฏิบัติดังต่อไปนี้
            ๑. ช่วยกันปลูกต้นไม้และดูแลรักษาต้นไม้ในบริเวณบ้าน โรงเรียน สวนสาธารณะ และตามถนนหนทางทั่วไป

            ๒. ทิ้งขยะให้เป็นที่ คือ ทิ้งลงในถังขยะ ไม่ทิ้งลงในแม่น้ำ ลำคลอง และจงกำจัดขยะให้ถูกวิธี
            ๓. ใช้ไฟฟ้าอย่างประหยัด อย่าเปิดไฟฟ้าทิ้งไว้ หรือใช้เกินจำเป็น เพราะมีผลกระทบต่อการผลิตไฟฟ้าเพิ่มขึ้น ซึ่งจะมีผลกระทบย้อนกลับบางประการมาสู่สิ่งแวดล้อมและมนุษย์ได้เช่นกัน
            ๔. เลือกใช้ของอย่างประหยัด เพราะนอกจากต้องซื้อหามาแล้ว ในการผลิตยังใช้พลังงานอีกไม่น้อย เมื่อทิ้งขว้างก็กลายเป็นของเสีย เกิดพิษภัยต่อสิ่งแวดล้อมตั้งแต่ต้นจนจบ จึงควรคิดให้รอบคอบเสียก่อนทุกคราวไป ดังนั้นขวดแก้วใส่น้ำหวานได้หลายต่อหลายครั้ง จึงดีกว่ากระป๋อง เพราะเราทิ้งกระป๋องเป็นขยะทุกครั้ง แต่เราเอาขวดมาล้างแล้วใช้ใหม่ได้
            ๕. ชักชวนกันใช้ของธรรมชาติ เช่น ใบตอง ดีกว่าของทำเทียมขึ้นมา ซึ่งได้แก่ ถุงพลาสติก กล่องโฟมเก็บความร้อน หรือความเย็น เพราะช่วยลดสิ่งแวดล้อมในระหว่างการผลิต และเมื่อทิ้งเป็นขยะ

            ๖. ควบคุมการผลิต และการใช้สารมลพิษ ซึ่งมีผลกว้างไกล เช่น น้ำยาบางชนิดในเครื่องทำความเย็น น้ำยาดับเพลิงแบบใหม่ (ฮาลอน) เป็นต้น
            นอกจากตัวอย่างต่างๆ ที่กล่าวมาแล้ว ขอให้เด็กๆ จงช่วยกันคิดพิจารณาว่า ยังมีอะไรอีกบ้างที่เป็นสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นพิษต่อมวลมนุษยโลก และขอให้คิดก้าวไกลต่อไปอีกว่า เด็กๆ จะช่วยกัน อย่างไร ที่จะลดมลพิษในสิ่งแวดล้อมให้น้อยลง เพื่อประชากรของโลกจะได้อยู่กันอย่างมีความสุข และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น