มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่งที่อาศัยอยู่บนผิวโลกเช่นเดียวกับสัตว์และพืชพรรณทั่วไป แต่เนื่องจากมนุษย์เฉลียวฉลาดกว่าสัตว์ และมีจำนวนมากกว่า จึงเบียดเบียนพื้นที่ป่าและทุ่งหญ้าธรรมชาติ นำมาทำเป็นพื้นที่เพาะปลูกและตั้งบ้านเรือน มนุษย์ได้ทำลายธรรมชาติมากเกินควรจนทำให้เกิดภัยธรรมชาติรุนแรงขึ้น นอกจากนี้ บางครั้งมนุษย์ยังทำให้บ้านเมือง ที่บรรพบุรุษสร้างไว้เกิดความเสื่อมโทรมไม่น่าอยู่อีกด้วย ดังนั้น มนุษย์จึงเริ่มคิดว่า ทำไมเราจึงไม่เลือกที่ตั้งเมือง ในสถานที่ที่น้ำไม่ท่วม ปลอดจากภัยพิบัติ แล้วมาช่วยกันสร้างบ้านเมืองให้สวยงามน่าอยู่ โดยใช้ที่ดินน้อยที่สุด ให้กลมกลืนกับธรรมชาติ และให้มีพื้นที่สีเขียวมากๆ เพื่อดูดซับน้ำฝนและเพื่อให้สัตว์ได้มีที่พักพิง\
บ้านเรือที่สร้างกลมกลืนกับธรรมชาติ มีพื้นที่สีเขียวมาก และสวยงาม
ภูมิสถาปัตยกรรมคือวิชาชีพประเภทหนึ่ง เป็นวิชาความรู้เฉพาะชั้นสูงที่นำมาใช้ในการประกอบอาชีพ เช่นเดียวกับวิชาชีพแพทย์ วิศวกร ผู้ตรวจบัญชี หรือทนายความ เป็นต้น ส่วนชื่อนั้น คำว่า "ภูมิ" หมายถึง แผ่นดิน และ "สถาปัตยกรรม" หมายถึง การสร้างสรรค์สิ่งปลูกสร้าง ซึ่งรวมถึงพื้นที่กลางแจ้ง เช่น สวนสาธารณะ เนื่องจาก งานภูมิสถาปัตยกรรมเป็นการสร้างสรรค์พื้นที่ภายนอกอาคาร จึงต้องเน้นความสำคัญของธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม และภูมิอากาศเป็นอย่างมาก สำหรับพื้นที่ที่ใช้เป็นถิ่นฐานที่อยู่อาศัยของมนุษย์ ยังต้องเน้นความสำคัญของศิลปวัฒนธรรม และแหล่งประวัติศาสตร์ด้วย โดยจะต้องมีการอนุรักษ์ลักษณะของแหล่งวัฒนธรรมไว้
ภูมิทัศน์ธรรมชาติอันสวยงาม เช่น นาขั้นบันได
คำที่มักได้ยินหรือคุ้นเคยอีกคำหนึ่ง คือ "ภูมิทัศน์" หมายถึง ภาพรวมของเนื้อที่ที่เรามองเห็น เช่น ภูมิทัศน์ธรรมชาติ หมายถึง ภาพรวมของพื้นที่ที่เป็นธรรมชาติ ภูมิทัศน์เมือง หมายถึง ภาพรวมของเมืองที่เรามองเห็น ส่วนคำว่า "ภูมิทัศน์วัฒนธรรม" หมายถึง ภูมิทัศน์ของพื้นที่ที่เกิดจากสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นและมีลักษณะสวยงาม ซึ่งแสดงให้เห็นวิถีการดำรงชีวิตของคนพื้นถิ่น ที่สืบทอดกันมา เช่น ภูมิทัศน์ของนาขั้นบันไดที่สวยงาม หมู่บ้านในดงตาล และภูมิทัศน์นาเกลือ สิ่งเหล่านี้ มักถูกทำลายลง เมื่อมีการพัฒนาบ้านเมืองสมัยใหม่ ภูมิสถาปัตยกรรมจึงเป็นงานออกแบบพื้นที่สมัยใหม่ ให้กลมกลืนกับภูมิทัศน์เดิม อย่างมีประสิทธิภาพ โดยยังคงรักษาลักษณะเฉพาะเดิมไว้ให้ได้มากที่สุด