เมื่อเราเกิดเจ็บป่วย และไปพบแพทย์ หลังจากที่แพทย์ตรวจแล้ว แพทย์อาจให้ยามาทา มารับประทาน หรือฉีดยา เพื่อรักษาโรค ที่เราเป็นอยู่ให้หายโดยเร็ว ยาที่ใช้บำรุงร่างกาย และรักษาหรือป้องกันโรค แต่ก่อนได้มาจากพืช สัตว์ แร่ธาตุในธรรมชาติ เช่น การใช้ว่านหางจระเข้ทาแผลรักษาเมื่อถูกน้ำร้อนลวก ต่อมา ก็นำความรู้ทางวิทยาศาสตร์มาค้นคว้าวิจัยทดลองผลิตยาเพิ่มเติม จากสารสำคัญในธรรมชาติและสารเคมี โดยมีจำนวนกว่าหมื่นชนิด ให้เป็นยาชนิดใหม่ที่มีประสิทธิภาพดี ซึ่งผ่านการทดสอบ ทั้งในหลอดทดลอง ในสัตว์ทดลอง และในคนมาแล้ว นอกจากนี้ ยายังต้องเกิดพิษต่อผู้ป่วยน้อยที่สุดด้วย ต่อมา มีการเตรียมรูปแบบยาที่ใช้ได้อย่างเหมาะสม เช่น ยาเม็ด ยาแคปซูล ยาเม็ดเคลือบฟิล์ม ยาฉีด ยาน้ำ ฯลฯ จึงทำให้เรามียา หลากหลายชนิดและหลายประเภท เช่น ยาฉีดอินซูลินจากตับอ่อนของโคหรือสุกร เพื่อใช้รักษาโรคเบาหวาน ยาปฏิชีวนะ ทั้งแบบกิน และฉีด เพื่อรักษาโรคติดเชื้อแบคทีเรียจากเชื้อรา ส่วนระยะสุดท้ายของการพัฒนายา จะเป็นการติดตามความปลอดภัยของผู้ป่วย หลังจากจำหน่ายยาในตลาดแล้ว เพื่อยืนยันผลของการใช้ยา และวิเคราะห์ข้อมูลด้านความปลอดภัย ในระยะยาว
ประเทศไทยมี "องค์การเภสัชกรรม" เป็นแหล่งผลิตยาขนาดใหญ่ นอกจากนี้ ก็ยังมีโรงงานผลิตยาแผนโบราณ และยาแผนปัจจุบันจำนวนหลายร้อยโรงงาน เพื่อผลิตยาแผนปัจจุบันใช้ภายในประเทศ และส่งออกไปจำหน่ายในหลายประเทศ เช่น เวียดนาม กัมพูชา พม่า เบลเยียม มาเลเซีย ดังนั้น การค้นพบและการพัฒนายา จึงมีความสำคัญทั้งต่อการแพทย์ และการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศด้วย