การป้องกันโรค
บุคคลทั่วไป
๑. ผู้ที่อาศัยอยู่ในบ้านเดียวกับผู้ป่วย หรือผู้ที่เป็นพาหะ บุคคลที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงกลุ่มอื่นๆ เช่น ฉีดยาเสพติดเข้าเส้น หรือหญิงและชายอาชีพขายบริการ ชายรักร่วมเพศ จะต้องระมัดระวังและป้องกันตนเองโดยปฏิบัติตามมาตรการอนามัยส่วนบุคคลให้เคร่งครัด ไม่ใช้เข็มและกระบอกฉีดยาร่วมกับผู้อื่น ใช้ถุงยางอนามัย หากตรวจเลือดแล้วยังไม่มีภูมิคุ้มกัน ให้ฉีดวัคซีนป้องกันโรค
๒. ประชากรไทยโดยทั่วไป ถ้าสามารถปฏิบัติได้ ให้ตรวจเลือด หากยังไม่มีภูมิคุ้มกัน ให้ฉีดวัคซีน หากพบว่าเป็นพาหะ ให้ปฏิบัติตามคำแนะนำที่ได้ให้ไว้แล้ว
๓. ทารกแรกเกิดที่เกิดจากมารดาที่เป็นโรคตับอักเสบเรื้อรัง หรือพาหะ ให้ฉีดวัคซีน หรือวัคซีนร่วมกับอิมมูโนโกลบุลินจำเพาะโดยเร็วที่สุดหลังคลอด
ในประเทศไทยเนื่องจากอัตราการเป็น พาหะในประชากรทั่วไปสูง กระทรวงสาธารณสุข มีนโยบายจะฉีดวัคซีนป้องกันโรคตับอักเสบ บี ให้แก่ทารกที่คลอดใหม่ทั่วประเทศ โดยเริ่มตั้งแต่ ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๓๔ เป็นต้นไป
ผู้บริจาคเลือดเพื่อนำไปให้กับผู้ป่วย
การตรวจเลือดบริจาคให้ปราศจากเชื้อโรคติดต่อต่างๆ รวมทั้งไวรัสตับอักเสบ บี ซี และเอดส์
ศูนย์บริการโลหิตและธนาคารเลือด
เลือดและผลิตภัณฑ์จากเลือด จะต้องได้รับการตรวจว่า ปลอดเชื้อตับอักเสบ บี เสียก่อน จึงจะนำไปบริการแก่ผู้ป่วยได้ ซึ่งศูนย์บริการโลหิต และธนาคารเลือดทุกแห่งในประเทศไทย ได้ปฏิบัติอยู่แล้ว
วัคซีนและอิมมูโนโกลบุลินจำเพาะ
วัคซีนมีอยู่ ๒ ชนิด คือ ชนิดที่ผลิตจากพลาสมาของผู้ที่เป็นพาหะ กับชนิดที่ผลิตโดยวิธีพันธุวิศวกรรม ทั้ง ๒ ชนิดนี้ มีผู้ผลิตจำหน่ายอยู่หลายบริษัท และมีจำหน่ายในประเทศไทยทั้ง ๒ ชนิด
อิมมูโนโกลบุลินจำเพาะ เรียกชื่อว่า เฮพาไตติส บี อิมมูโกลบุลิน (Hepatitis B Immune Globulin) หรือเรียกย่อๆ ว่า เอชบิก (HBIG) ผลิตโดยแยกเอาส่วนอิมมูโนโกลบุลิน ออกจากเซรุ่มของผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่อโรคตับอักเสบ บี ในปริมาณที่สูงๆ และจากหลายๆ คน นำมารวมกันเข้า ผ่านขบวนการกำจัดเชื้อโรค ที่อาจปนเปื้อนอยู่เสียให้หมด แล้วนำมาใช้ป้องกันตับอักเสบชนิด บี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ป้องกันให้แก่ทารกแรกเกิด ที่เกิดจากมารดา ที่มีเชื้อโดยฉีด ๐.๕ ซีซี. เข้ากล้ามเนื้อครั้งเดียว ภายใน ๑๒ ชั่วโมงหลังคลอด ร่วมกับการฉีด วัคซีน หรือฉีดให้แก่บุคลากรทางแพทย์ ที่ถูกเข็มฉีดยาที่มีเชื้อทิ่มแทง หรือฉีดให้แก่ผู้ที่มีเพศสัมพันธ์กับผู้ที่ติดเชื้อตับอักเสบ บี