การแบ่งประเภทของยา
ประเภทของยาสามารถแบ่งได้ในหลายแบบ อาจแบ่งตามลักษณะวิธีการใช้ยา เช่น ยาใช้ภายนอก และยาใช้ภายใน โดยการรับประทานแบ่งตามลักษณะของยา เช่น ยาเม็ด ยาน้ำ ยาฉีด และยาทา แบ่งตามสรรพคุณของยา เช่น กลุ่มยาแก้ไข้ แก้ปวด กลุ่มยาแก้ไอ กลุ่มยาปฏิชีวนะ และแบ่งตามกฎหมายพระราชบัญญัติยา
การแบ่งประเภทของยาตามกฎหมาย
พระราชบัญญัติยา พ.ศ. ๒๕๑๐ ได้ให้ความหมายของคำว่า "ยา" ว่าหมายถึง "วัตถุที่รับรองไว้ในตำรายาที่รัฐมนตรีประกาศ โดยมุ่งหมายสำหรับใช้ในการวินิจฉัย บำบัด บรรเทา รักษา หรือป้องกันโรค หรือความเจ็บป่วยของมนุษย์หรือสัตว์" โดยแบ่งประเภทของยาออกเป็น ๔ ประเภทใหญ่ๆ คือ
ยาแผนโบราณ
๑. ยาแผนโบราณ หมายถึง ยาที่ใช้รักษาโรคแผนโบราณในคนและสัตว์ ทั้งนี้ ยาชนิดนี้ จะต้องเป็นยาที่ได้รับอนุญาตให้ขึ้นทะเบียนเป็นตำรับยาแผนโบราณอย่างถูกต้อง โดยยาแผนโบราณมีทั้งหมด ๑๖ รายการ ได้แก่ ยามหานิลแท่งทอง ยาเขียวหอม ยาเหลืองปิดสมุทร ยาจันทน์ลีลา ยาประสะมะแว้ง ยาหอมอินทจักร์ ยาวิสัมพยาใหญ่ ยาธาตุบรรจบ ยาประสะกะเพรา ยาเทพมงคล ยาประสะกานพลู ยาตรีหอม ยาประสะจันทน์แดง ยาหอมนวโกฐ ยาประสะไพล และยาอำมฤควาที
๒. ยาแผนปัจจุบัน หมายถึง ยาที่ใช้รักษาโรคแผนปัจจุบันทั้งในคนและสัตว์ เช่น ยาลดไข้ ยาแก้ปวด ยาแก้แพ้ ฯลฯ
ยาแผนปัจจุบัน
ยาแผนโบราณและยาแผนปัจจุบันจะถูกจัดหมวดย่อยของยาตามกฎหมาย เพื่อควบคุมการใช้และการเข้าถึงยาของประชาชนได้ เช่น ยาอันตราย ยาควบคุมพิเศษ ยาบรรจุเสร็จซึ่งบรรจุในภาชนะหีบห่อที่ปิดหรือผนึกไว้และมีฉลากครบถ้วน
๓. ยาสามัญประจำบ้าน หมายถึง ยาที่เป็นทั้งยาแผนปัจจุบันและยาแผนโบราณ ที่กระทรวงสาธารณสุขพิจารณาคัดเลือกว่าเป็นยาที่เหมาะสม ราคาประหยัด และมีความปลอดภัยที่ประชาชนสามารถซื้อจากร้านขายยา ร้านขายของชำ หรือสถานที่ทั่วไปอื่นๆ โดยไม่ต้องขอใบอนุญาตขายยา เพื่อให้ประชาชนนำมาใช้ ได้ด้วยตนเอง ในการดูแลรักษาอาการเจ็บป่วยเล็กๆ น้อยๆ ที่มักจะเกิดขึ้นได้ ยาสามัญประจำบ้านแผนปัจจุบันตามประกาศของกระทรวงสาธารณสุขมีทั้งหมด ๕๓ ชนิด นำมาใช้กับโรคหรืออาการของโรคได้ ๑๖ กลุ่ม ตัวอย่างยาสามัญประจำบ้าน เช่น ยาระบายมะขามแขก ยาทาแก้ท้องอืดท้องเฟ้อทิงเจอร์มหาหิงคุ์ ยาเม็ดบรรเทาปวดลดไข้ พาราเซตามอล ๕๐๐ มิลลิกรัม และยาดมแก้วิงเวียน เหล้าแอมโมเนียหอม
๔. ยาสมุนไพร หมายถึง ยาที่ได้จากพฤกษชาติ สัตว์ หรือแร่ ซึ่งมิได้ผสม ปรุง หรือแปรสภาพ คณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข ได้มีมติเมื่อ พ.ศ. ๒๕๔๒ ให้แบ่งประเภทยาจากสมุนไพรเป็น ๔ กลุ่ม ได้แก่
๑) ยาแผนโบราณ หมายถึง ยาจากสมุนไพรที่มีสรรพคุณ ขนาด และวิธีใช้ ที่เป็นองค์ความรู้ที่สืบทอดต่อกันมา
๒) ยาจากสมุนไพรแผนโบราณ หมายถึง ยาจากสมุนไพรที่มีสรรพคุณ ขนาด และวิธีใช้ที่เป็นองค์ความรู้ที่สืบทอดต่อกันมา และมีการพัฒนารูปแบบยาไปจากเดิม
๓) ยาจากสมุนไพรแผนปัจจุบัน หมายถึง ยาจากสมุนไพรที่ได้มาจากการวิจัยและพัฒนาต่อเนื่องจากยาแผนโบราณ ด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ มีตัวยาสำคัญอยู่ในลักษณะยากึ่งสังเคราะห์
๔) ยาแผนปัจจุบันที่เป็นยาใหม่ หมายถึง ยาจากสมุนไพรที่ได้วิจัยพัฒนาด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ จนได้ตัวยาสำคัญ อยู่ในลักษณะสารบริสุทธิ์ซึ่งทราบสูตรโครงสร้างที่ชัดเจน การใช้ยากลุ่มนี้ต้องมีระบบติดตาม เพื่อเฝ้าระวังความปลอดภัยเกี่ยวกับ อาการไม่พึงประสงค์ เมื่อใช้ในผู้ป่วย