ทฤษฎีของการแพร่กระจายของมะเร็ง ในปัจจุบันนี้มีทฤษฎีที่เชื่อกันมาก ๓ ทฤษฎี คือ ๑. ทฤษฎีทางกลศาสตร์ (mechanical theory) โดยเซลล์หลุดจากกันได้ง่าย แล้วแทรกตัวเข้าตามผนังของหลอดเลือด หรือหลอดน้ำเหลือง (diapedsis) เหมือนเม็ดเลือดขาว หรือจากการแตกของหลอดเลือด ทำให้เซลล์มะเร็งเข้าในกระแสเลือด หรือกระแสน้ำเหลืองได้
๒. ทฤษฎีของการเลือกเฉพาะ (selective affinity theory) ลักษณะของอวัยวะที่แพร่กระจายจะมีความสำคัญ และควบคุมลักษณะของการแพร่กระจาย อวัยวะบางอย่าง เหมาะที่จะเป็นตำแหน่งที่แพร่กระจายของมะเร็งบางชนิด เช่น มะเร็งของกระดูกมักจะแพร่กระจายไปที่ปอด หรือมะเร็งของปอด มักจะแพร่กระจายไปที่สมอง เป็นต้น ๓. ทฤษฎีการเปลี่ยนรูป (transformation theory) คือ ดีเอ็นเอจีโนม (DNA genome) จะเข้าไปในเซลล์ปกติ และร่วมกับมีการบกพร่องในระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ทำให้เซลล์ปกติเปลี่ยนเป็นเซลล์มะเร็ง | |||
ต่อมน้ำเหลืองที่เป็นมะเร็งมีก้อนขนาดใหญ่ขึ้น | เนื่องจากว่า ทฤษฎีแรกมีผู้เชื่อถือกันมากที่สุด ฉะนั้น พอจะสรุปวิธีการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็ง เมื่อเซลล์มะเร็งหลุดจากก้อนมะเร็งแล้วได้ ๔ วิธี คือ | ||
๑. โดยทางกระแสเลือด เซลล์มะเร็งจะหลุดเข้ากระแสเลือด แล้วไปเจริญเติบโตในอวัยวะต่างๆ เช่น ปอด ตับ กระดูก สมอง ฯลฯ ๒. โดยทางกระแสน้ำเหลือง เซลล์มะเร็งหลุดเข้าหลอดน้ำเหลือง แล้วไปเจริญเติบโตในต่อมน้ำเหลืองบริเวณใกล้เคียง ทำให้ต่อมน้ำเหลืองมีขนาดโตได้มากๆ และจากต่อมน้ำเหลืองนี้ เซลล์มะเร็งอาจจะแพร่กระจายเข้าสู่หลอดเลือดอีกทอดหนึ่งก็ได้
๓. โดยการฝังตัวของเซลล์มะเร็ง (implantation) โดยเซลล์มะเร็งหลุดจากตำแหน่งเดิม และไปเจริญที่ส่วนอื่น อาจจะเป็นการหลุดโดยธรรมชาติ หรือการหลุด โดยการกระทำ ของแพทย์ เช่น ขณะผ่าตัด เป็นต้น ๔. โดยการไปจับหรือรวมตัวตามพื้นผิวของผนังเยื่อบุ (transcoelomic) โดยเซลล์มะเร็งหลุดจากก้อนมะเร็ง และไปงอกตามพื้นผิวของเยื่อบุต่างๆ เหมือนกับต้นกาฝากที่แพร่จากกิ่งไม้กิ่งหนึ่งไปยังกิ่งติดๆ กัน เช่น ตาม พื้นผิวของเยื่อบุช่องท้อง ช่องปอด เป็นต้น |