อาการของโรคมะเร็ง ไม่ว่าจะเป็นมะเร็งของอวัยวะใดก็ตาม อาการ และอาการแสดงจะประกอบด้วย ๔ กลุ่มใหญ่ คือ ๑. อาการเฉพาะที่ อาการจะเกิดในบริเวณอวัยวะ หรือตำแหน่งที่เป็นมะเร็งก้อน ซึ่งในระยะที่เพิ่งเริ่มเป็นจริงๆ อาจจะไม่มีอาการอะไรเลย โดยเฉพาะถ้าเป็นกับอวัยวะภายใน ทำให้วินิจฉัยโรคในระยะนี้ได้ยาก เมื่อโรคเป็นมากขึ้น จนเป็นก้อนมะเร็ง จะมีการเบียด และทำลายเนื้อเยื่อของอวัยวะต้นกำเนิด ทำให้อวัยวะนั้นๆ เสียหน้าที่ไป ต่อมาก็จะมีการลุกลามแทรกซึม ไปทำลายอวัยวะใกล้เคียงอีกด้วย โดยที่ไม่มีอะไรไปขวางกั้นมันได้แม้แต่กระดูก มันจะทำให้กระดูกผุกร่อนหรือหักไปเลย เมื่อลามไปถึงหลอดเลือดก็จะมีการทำลายของผนังหลอดเลือด ทำให้มีเลือดออก เมื่อลุกลามไปที่ท่อทางเดินต่างๆ ของร่างกาย ก็จะทำให้เกิดการอุดตันของท่อทางเดินต่างๆ หรือไม่ก็ทะลุไปเลย เช่น กลืนอาหารไม่ลง หายใจไม่ออก ลำไส้ทะลุ ฯลฯ เป็นต้น | |||
ไฝดำที่หน้าซึ่งเริ่มคัน และแตกกลายเป็นมะเร็งผิวหนัง | |||
ในระยะที่เริ่มเป็น จะไม่มีอาการเจ็บปวดแต่อย่างใด แต่เมื่อมีการลุกลามไปถึง หรือมีการทำลายกระดูกเส้นประสาทแล้ว จะทำให้ปวดมาก แม้แต่จะรับประทานยาแก้ปวดก็ไม่หาย นับว่า เป็นความทุกข์ทรมานเป็นอย่างยิ่ง ผู้ป่วยส่วนใหญ่มักจะมาพบแพทย์ เพื่อขอรับการรักษา ก็ต่อเมื่อ เกิดอาการปวดแล้ว ซึ่งก็สายเกินไป ที่จะรักษาให้หายขาดได้เสียแล้ว
เพื่อความเข้าใจง่ายขอกล่าวอาการคร่าวๆ ของมะเร็งที่เป็นกับระบบอวัยวะที่สำคัญ ดังนี้คือ ก. มะเร็งของระบบผิวหนัง ส่วนใหญ่จะเริ่มจากมีการเปลี่ยนแปลงของไฝ ปาน หรือจุดตกกระในคนแก่ โดยจะมีอาการคันแตกเป็นแผล แล้วไม่ยอมหาย ขอบแผลอาจมีสีดำ ในระยะหลังจะโตเร็ว และมีเลือดออก | |||
ฝ้าขาวของเยื่อบุหรือลิวโคพลาเกีย ของริมฝีปากล่างอาจกลายเป็นมะเร็งของริมฝีปากล่างได้ | |||
ข. มะเร็งของระบบทางเดินอาหาร ในช่องปากจะมีแผลโดยเริ่มจากฝ้าขาวๆ (leulkoplakia) ก่อน บริเวณหลอดอาหารจะเริ่มจากการเจ็บเวลากลืนอาหาร และกลืนลำบาก หรือกลืนไม่ลง บริเวณกระเพาะอาหารอาจจะเริ่มจากแผลในกระเพาะอาหาร มีอาการปวดท้อง ท้องอืด แน่นท้อง อาเจียนเป็นเลือด อุจจาระมีสีดำ คลำได้ก้อนที่บริเวณยอดอก บริเวณลำไส้ส่วนปลาย มักจะเริ่มจากมีอาการท้องผูกสลับกับท้องเดิน อุจจาระเป็นมูกเลือด เป็นต้น ค. มะเร็งของระบบทางเดินหายใจ มีอากรเสียงแหบ ไอ เสมหะปนเลือด เจ็บแน่นหน้าอก หอบเหนื่อย หน้าและคอบวม เป็นต้น ง. มะเร็งของระบบน้ำเหลือง จะมีก้อนจากการโตของต่อมน้ำเหลือง โดยเฉพาะบริเวณคอ รักแร้ ขาหนีบ และในช่องท้อง จ. มะเร็งของระบบเลือด จะมีอาการอ่อนเพลีย ซีดจากโลหิตจางเลือดออกง่ายโดยเฉพาะใต้ผิวหนัง อาจพบจ้ำเลือด ฉ. มะเร็งของระบบอวัยวะสืบพันธุ์ ในเพศหญิง บริเวณเต้านมจะเริ่มมีก้อน มีเลือด หรือน้ำเหลืองออกจากหัวนมในระยะแรกๆ มีแผลหรือคันบริเวณอวัยวะเพศ มีตกขาว หรือมีเลือดออกทางช่องคลอด มีการผิดปกติของประจำเดือน ในเพศชายจะมีแผลที่อวัยวะเพศคล้ายแผลจากกามโรค มีปัสสาวะขัดมีก้อนที่อัณฑะ เป็นต้น
๒. อาการแสดงของการโตของต่อมน้ำเหลืองบริเวณใกล้เคียง เมื่อโรคเป็นมากขึ้น ต่อมน้ำเหลืองใกล้เคียงจะโตเป็นก้อน มักจะแข็ง ระยะแรกจะเคลื่อนไหวได้เวลาจับ และต่อมาจะยึดแน่น เห็นได้ชัดเจนในมะเร็งบริเวณศีรษะ และลำคอ | |||
มะเร็งของเยื่อบุบริเวณโคนลิ้น | ๓. อาการทั่วๆ ไป ของมะเร็ง มะเร็งจะมีผลทำให้สรีรวิทยา และเมตาโบลิซึมของร่างกายผิดไปจากปกติเกือบทุกระบบ โดยที่เซลล์มะเร็งจะปล่อยพิษให้ซึมซาบไปทั่วร่างกาย ทำให้มีอาการอ่อนเพลีย เบื่ออาหาร ซูบซีด และในระยะสุดท้ายจะผอมแห้ง มะเร็งบางชนิดสามารถหลั่งฮอร์โมนได้ จึงทำให้ร่างกายมีการผิดปกติตามแต่ชนิดของฮอร์โมน เช่น มะเร็งของรังไข่ที่หลั่งฮอร์โมนเพศชาย จะทำให้ผู้ป่วยหญิงมีลักษณะคล้ายผู้ชาย เช่น มีหนวด เสียวห้าว เป็นต้น | ||
๔. อาการที่เกิดจากการแพร่กระจายของมะเร็ง อาการชนิดนี้ ขึ้นอยู่กับว่า มะเร็งทุติยภูมิจะไปเกิดที่อวัยวะใด ก็จะปรากฏอาการของการผิดปกติของอวัยวะนั้นๆ เพิ่มขึ้นมาด้วย เช่น ถ้าแพร่กระจายไปที่ปอด ก็ทำให้เกิดอาการไอ หอบ หรือมีน้ำท่วมปอด ถ้าแพร่กระจายไปที่สมอง จะทำให้ปวดศีรษะอย่างมาก จนถึงหมดสติไม่รู้สึกตัว เป็นต้น |