เล่มที่ 7
บ้านเรือนของเรา
เล่นเสียงเล่มที่ 7 บ้านเรือนของเรา
สามารถแชร์ได้ผ่าน :
            เราอาจแบ่งบ้านสมัย ใหม่ของเราออกเป็น ๒ ประเภท คือ บ้านไม้ กับบ้านตึก บ้านตึกมีโครงเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก ผนังก่ออิฐถือปูน แต่ก็ยังมีส่วนเป็นไม้ประกอบอยู่ เช่นพื้นบ้าน วงกบ และประตูหน้าต่าง รวมทั้งโครงสร้างบางส่วนจะใช้ไม้มาก หรือน้อย ก็แล้วแต่แบบบ้านหลังหนึ่งๆ

            การก่อสร้างบ้านที่ถูกต้อง ต้องมีสถาปนิก และวิศวกร ร่วมกันออกแบบ เพื่อให้ได้บ้านที่สวยงาม น่าอยู่ อยู่สุขสบาย และมีความมั่นคง แข็งแรง ในการออกแบบ และก่อสร้างบ้านจำเป็นต้องจัดเรื่องไฟฟ้า ประปา ทางระบายน้ำทิ้ง ไปพร้อมกันด้วย

หมู่บ้านจัดสรร

            บ้านที่อยู่สบาย ไม่จำเป็นต้องมีราคาแพงมาก แต่ควรเป็นบ้านที่ก่อสร้างให้ถูกสุขลักษณะ อากาศโปร่ง ได้รับแสงแดดทั่วถึง และมีความมั่นคงแข็งแรงพอสมควร เราผู้อยู่อาศัยในบ้านก็ควรสนใจและดูแลรักษาบ้าน ให้อยู่ในสภาพที่ดี ให้สะอาดทั้งในตัวเรือน และบริเวณโดยรอบ อย่าทิ้งขยะมูลฝอยเกลื่อนกลาด ภายในตัวเรือนก็ไม่ควรปล่อยให้สกปรกรกรุงรัง จนเป็นที่อาศัย ของสัตว์นำโรคต่างๆ เช่น ยุง แมลงวัน แมลงสาบ หรือ หนูได้

งานก่อสร้างบ้านชั้นเดียว

            เราควรรู้จักจัด และตกแต่งบ้านตามกำลังความสามารถ ควรปลูกต้นไม้ ไม้ดอก ไม้ผล ตลอดถึงสวนครัว ถ้าเราสนใจปลูก และดูแลเอาใจใส่โดยสม่ำเสมอ นอกจากจะช่วยทำให้บ้านสวยงามน่าอยู่ ร่มรื่นแล้ว ยังอาจใช้ผลิตผลจากพืชเหล่านั้น เป็นอาหารของเราได้อีกด้วย

การตั้งเสาและคานคอนกรีต

            บ้านมิใช่เป็นเพียงที่อยู่ ที่หลับนอนเท่านั้น ยังเป็นสถานที่ที่ให้ความผาสุก ความสะดวกสบาย และความปลอดภัยแก่ชีวิต เป็นศูนย์รวมความเป็นอยู่ และจิตใจของสมาชิกภายในบ้านด้วย

            เราทุกคนปรารถนาที่จะมีบ้านสวยงาม มั่นคงแข็งแรง อยู่สบาย เพื่อเราจะได้มีความร่มเย็นเป็นสุขอยู่ภายใต้หลังคาบ้านของเรา ไปนานเท่านาน

            บ้านคือที่อยู่อาศัยของเรา

            วัตถุประสงค์ของการมีบ้านตั้งแต่สมัยโบราณจนถึงปัจจุบัน  แม้จะเปลี่ยนแปลงไปตามกาลสมัย แต่ก็ไม่ทิ้งหลักสำคัญ คือ ให้เป็นที่อยู่อาศัย พักผ่อนนอน หลับ ป้องกันอันตรายจากภายนอกและสามารถเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงของลม ฟ้าอากาศ เมื่อวิทยาการเจริญขึ้น มนุษย์สามารถจัดหา ประดิษฐ์วัสดุก่อสร้างที่ เลียนแบบหรือดีกว่าวัสดุธรรมชาติได้ บ้านเรือนของเราก็มั่นคงถาวร และสวย งามมากขึ้น การค้นพบทางวิทยาศาสตร์และการประดิษฐ์ที่สำคัญๆ เช่น ในเรื่องการใช้ไฟฟ้า การให้ความสว่าง การใช้เชื้อเพลิงชนิดต่างๆ การคมนาคมและ การสื่อสารตลอดจนการขนส่ง ทำให้เรามีบ้านเรือนที่น่าอยู่ อยู่ได้โดยปลอดภัย และสะดวกสบายยิ่งขึ้น

การให้แสงสว่างภายในบ้าน

            บ้านเรือนของเราในปัจจุบัน แบ่งได้เป็น ๒ ประเภท คือ บ้านไม้ กับบ้านตึก บางทีก็มีสองลักษณะรวมอยู่ด้วยกัน เรียกว่า บ้านครึ่งตึกครึ่งไม้ บ้านตึกมีโครงสร้างเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก ผนังก่ออิฐถือปูน แต่ก็ยังมีส่วนที่เป็นไม้ประกอบอยู่ตามส่วนที่จำเป็น หรือเพื่อการตกแต่ง ถ้าเป็นบ้านไม้ วัสดุก่อสร้างตัวบ้านเกือบทั้งหมดเป็นไม้ นับตั้งแต่ เสา คาน ตง โครงหลังคา ฝา และพื้น บ้านเรือนตามชนบทของไทยเรามักเป็นบ้านไม้

การจัดสวนเพื่อตกแต่งบริเวณบ้านให้น่าอยู่

            การก่อสร้างบ้านที่ถูกวิธี ต้องมีผู้รู้ ผู้ชำนาญ คือ สถาปนิก และวิศวกร ร่วมกันออกแบบ เพื่อให้บ้านได้รับลมและแสงสว่าง อย่างถูกต้อง ได้ทั้งบ้านที่ แข็งแรงมั่นคง สวยงาม และอยู่สบาย ช่างก่อสร้างก็มีความสำคัญมาก ถ้าได้ช่างที่มีฝีมือ มีความรู้ และชำนาญงาน จะช่วยให้การก่อสร้างบ้านของเรา สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น

            ไม่ว่าจะเป็นบ้านตึก หรือบ้านไม้ เมื่อจะดำเนินการก่อสร้างตามแบบ จะต้องทำการปักผังลง ณ ที่ดินที่กำหนดก่อสร้างบ้าน ขั้นนี้ นับว่า สำคัญมาก เพราะถ้ามีการผิดพลาดขึ้นแล้ว จะแก้ไขภายหลังได้ยาก หรือไม่ได้เลย การปักผังเป็นการกำหนดเขต กำหนดตำแหน่ง และหาศูนย์กลางของเสาบ้าน

การจัดสวนเพื่อตกแต่งบริเวณบ้านให้น่าอยู่

            สำหรับบ้านไม้ ขั้นตอน และเวลาที่ใช้ในการก่อสร้าง ไม่ยุ่งยากเท่าบ้านตึก หลังจากขุดหลุม และตอกเข็มเทฐานรากแล้ว ก็ตั้งเสาไม้ติดตั้ง คาน ตง ทั้งชั้นล่าง และชั้นบน ติดตั้งขื่อ หลังคา วางโครงหลังคา และมุงหลังคาไปได้เลย เมื่อได้ติดตั้งบันไดขึ้นชั้นบนแล้ว ก็จัดการปูพื้น ติดตั้งเคร่าฝา วงกบประตู หน้าต่าง และตีฝา หลังจากตีฝา และทำฝ้าเพดานแล้ว ก็นับได้ว่า ผ่านงานใหญ่สำหรับตัวบ้านไปแล้ว งานส่วนที่เหลือ ได้แก่ การติดตั้งบานประตู หน้าต่าง ทำลูกกรง และราวบันได ทำห้องน้ำ ห้องส้วม และงานเก็บอื่นๆ เช่น การเดินสายไฟ และติดตั้งสวิทช์ดวงโคม รวมทั้งการเดินท่อประปา สำหรับบ้านไม้ จะทำหลังจากการก่อสร้างตัวบ้าน เสร็จเรียบร้อยแล้วก็ได้ บ้านไม้ที่ทาสีน้ำมัน จะดูเรียบร้อย และสวยงาม และช่วยป้องกันรักษาเนื้อไม้ไปในตัว แต่บ้านไม้ที่ทาแต่เพียงน้ำมันกันตัวสัตว์ก็มีอยู่ทั่วไป

            ส่วนบ้านตึกนั้น หลังจากขุดหลุม ตอกเข็มแล้ว ต้องทำฐานรากก่อน จึงจะหล่อคอนกรีตเสา คาน พื้น แล้วจึงติดตั้งวงกบประตู หน้าต่าง ก่อ อิฐผนังติดตั้ง โครงหลังคา มุงหลังคาเรียบร้อยแล้ว จึงถือปูนผนัง และปูพื้นไม้ เข้าลิ้น สำหรับพื้นที่เป็นคอนกรีตนั้น ส่วนมากจะปูด้วยไม้ปาเก้ หรือกระเบื้องยาง หรือทำพื้นหินขัด  ถ้าเป็นบ้าน ๒ ชั้นก็ต้องติดตั้งบันได และปูพื้นชั้นบน สำหรับบ้านตึก การเดินสายไฟ ติดตั้งสวิทช์ และดวงโคม รวมทั้งการเดินท่อน้ำประปาภายในอาคาร มักจะทำไปพร้อมๆ กับงานส่วนสุดท้ายของบ้าน ก่อนที่จะทาสี สีที่ทาบ้านตึกแตกต่างจากสีที่ทาบ้านไม้ คือ ใช้สีพลาสติกหรือสีน้ำปูนทา บ้านตึกจะมีความมั่นคง แข็งแรง ดีหรือไม่อยู่ในความรับผิดชอบของวิศวกร ซึ่งเป็นผู้คำนวณหาขนาดของฐานราก เสา คาน และพื้นคอนกรีตเสริมเหล็ก ขนาดของเหล็กเสริมที่ใช้เป็นโครงคอนกรีตต้องให้ถูกต้องตรงตามแบบ การผสมคอนกรีตผู้ก่อสร้างก็ต้องระวังให้ตรงตามส่วนที่กำหนด เทคอนกรีตก็ต้องให้เต็มแบบไม้ และต้องทิ้งให้แข็งตัวตามระยะเวลา ทั้งนี้ต้องรดน้ำตามกำหนด มิฉะนั้น คอนกรีตจะแตกร้าวได้ การผสมปูนก่อหรือปูนฉาบ ก็ต้องให้ถูกส่วน และการก่อหรือฉาบก็ต้องให้ถูกวิธีเช่นกัน ผิวปูนจึงไม่แตกร้าวง่าย

การจัดสวนเพื่อตกแต่งบริเวณบ้านให้น่าอยู่

            ส่วนประกอบสำคัญที่ทำให้บ้านของเราเป็นที่น่าอยู่ น่าอาศัย มีหลายอย่างที่สำคัญๆ ก็ได้แก่ ระบบไฟฟ้าซึ่งหมายถึงการให้ แสงสว่างภายในบ้าน รวมทั้งความสะดวก ที่จะใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ ภายในบ้าน ระบบน้ำใช้ และน้ำทิ้ง การจัดสร้างห้องน้ำ และห้องส้วมที่ถูกสุขลักษณะ ตลอดถึง วิธีการใช้เชื้อเพลิง สำหรับหุงต้มในครัวเรือน

            การจัดปลูกต้นไม้ ภายในบริเวณบ้าน ไม่ว่าจะเป็นบ้านเล็ก หรือตึกใหญ่มีบริเวณน้อยหรือมาก เป็นสิ่งที่ทำได้เสมอ ถ้าเราผู้อยู่ในบ้านจะสนใจ และให้เวลาดูแลบ้าง ต้นไม้ชนิดต่างๆ ไม่ว่าไม้ดอก ไม้ใบ ไม้ผล ไม้ยืนต้น หรือไม้ล้มลุก แม้จนกระทั่งสวนครัว นอกจากจะได้ดอกผลที่เป็นประโยชน์แล้ว ยังเป็นเครื่องประดับบ้านโดยธรรมชาติที่วิเศษยิ่ง ถ้ารู้จักดูแลรักษา จัดปลูก และตกแต่งทะนุบำรุงอยู่เสมอ

การจัดสวนเพื่อตกแต่งบริเวณบ้านให้น่าอยู่

            เราน่าจะถือว่า การดูแลรักษาความสะอาดทั้งภายในตัวเรือน และโดยรอบบ้าน ก็เป็นสิ่งสำคัญมาก สำคัญกว่าการจัดตกแต่งด้วยเครื่องเรือน หรือเครื่องประดับบ้านราคาแพงๆ เสียอีก

            บ้านเรือนของเราจะน่าอยู่ น่าอาศัย อยู่ได้โดยปลอดภัย ผาสุก และร่มเย็นเป็นสุขไปได้นาน มิได้ขึ้นอยู่กับชนิด และขนาดของตัวบ้านเท่านั้น แต่ขึ้นอยู่กับวิธีการปลูกสร้าง การตกแต่ง และดูแลรักษาด้วยใจรัก และเห็นคุณค่าในบ้านเรือน ของผู้อยู่อาศัยด้วย