สิ่งมีชีวิตทุกชนิดบนโลกของเรานี้ จะอยู่ตามลำพังคนเดียวไม่ได้ จำเป็นต้องพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกันตลอดเวลา ลองนึกดูถึงลูกนก เมื่อเกิดใหม่ในรัง ยังไม่ลืมตา ขนปีกขนหางยังไม่งอก ช่วยตัวเองไม่ได้เลย ต้องอาศัยแม่นก พ่อนก หาอาหารมาป้อน คอยระวังปกป้องให้พ้นภัยจากศัตรู จนกว่าจะเติบใหญ่มีขนปีกขนหางยาวพอที่จะบินได้ แต่ถึงกระนั้น พ่อนก แม่นก ก็ยังต้องเฝ้าดูแล หัดสอนบิน แนะให้รู้จักแหล่งอาหาร รู้จักเพื่อน และรู้จักระวังภัยให้พ้นจากศัตรู |
ตัวเราก็เช่นเดียวกับลูกนก ต้องอาศัยพ่อแม่ญาติพี่น้องคอย ดูแล เลี้ยงดูมา ตั้งแต่เล็กจนเติบใหญ่ เมื่อโตขึ้น ก็มิใช่ว่าจะอยู่ได้โดยลำพัง ยังคงมีความจำเป็นต้องพึ่งพาอาศัยบุคคลรอบข้าง และสิ่งแวดล้อมอื่นๆ ต่อไป จนตลอดชีวิต |
สิ่งแวดล้อมรอบตัวเรา ซึ่งมีทั้งสิ่งมีชีวิต และสิ่งไม่มีชีวิต จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อเรา จะขาดเสียมิได้ |
ความสัมพันธ์อันแนบแน่น และซับซ้อนของสิ่งมีชีวิตกับสิ่งแวดล้อมเช่นนี้ เราเรียกว่า ระบบนิเวศ |
ถ้าสิ่งแวดล้อมดี อากาศดี น้ำสะอาด ดินมีคุณภาพ และป่าไม้อุดมสมบูรณ์ ก็จะส่งผลให้ชีวิตสามารถดำรงอยู่ได้อย่างผาสุก |
แต่ในทางตรงกันข้าม ถ้าสิ่งแวดล้อมถูกทำลาย อากาศเสีย น้ำเน่า ดินเสื่อม และป่าไม้หมดไป สิ่งมีชิวิตทั้งหลายทั้งปวงในระบบนิเวศนั้น ก็อยู่ไม่ได้ |
ดังนั้นเราทุกคน จึงควรรักษาสิ่งแวดล้อม ไม่ให้ถูกทำลาย รู้วิธีถนอมใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างฉลาด รู้วิธีฟื้นฟูปรับปรุงสภาพสิ่งแวดล้อมที่เสื่อมโทรม ให้กลับคืนสู่สภาพดีดังเดิม เพื่อที่เราจะได้มีชีวิตที่ผาสุกร่วมกันไปนานเท่านาน |