ในสมัยโบราณ สังคมไทยเป็นสังคมเกษตรกรรม มีชุมชนหมู่บ้านเป็นรากฐาน ชาวบ้านช่วยกันทำการผลิตต่างๆ แบบทำเอง ใช้เอง ต่อมาเมื่อชุมชนขยายใหญ่ขึ้น จึงแยกเป็นชุมชนเมืองกับชุมชนในชนบท ชุมชนเมืองเป็นศูนย์รวมของอำนาจ และการค้า ส่วนชุมชนในชนบทยังคงทำการผลิตเลี้ยงตนเอง อีกทั้งต้องส่งผลิตผลให้แก่ชุมชนเมืองผ่านระบบส่วย และการเกณฑ์แรงงาน แต่เมื่อร้อยกว่าปีก่อน ชาติตะวันตกได้แผ่ขยายอิทธิพลเข้ามาในไทย ไทยจึงต้องเปิดตลาดการค้าเสรีกับต่างประเทศ ต้องเปลี่ยนโครงสร้างทางเศรษฐกิจจากระบบเศรษฐกิจแบบพึ่งตนเอง มาเป็นแบบการค้าและอุตสาหกรรม รวมทั้งต้องกลายเป็นส่วนหนึ่งของระบบเศรษฐกิจโลกด้วย
นับจากนั้นมา ไทยต้องเสียเปรียบทางการค้ากับต่างประเทศมาโดยตลอด เนื่องจากสินค้าเกษตรมีราคาถูก แต่สินค้าอุตสาหกรรมมีราคาแพง หลายสิบปีมานี้ ไทยจึงเร่งแปรรูปทรัพยากรธรรมชาติไปเป็นทุน เพื่อพัฒนาอุตสาหกรรม และยังกู้ยืมเงินทุนจากต่างประเทศ ด้วยวิธีต่างๆ เพื่อเพิ่มระดับความสามารถในการแข่งขันกับต่างประเทศ แต่การทำเช่นนั้นมากเกินไป ส่งผลให้ระบบนิเวศเสียหาย ธรรมชาติเสียสมดุล ชุมชนในชนบทที่อิงอยู่กับธรรมชาติก็ล่มสลาย ในขณะที่ชุมชนเมืองที่อิงอยู่กับอุตสาหกรรม และการค้า ต้องประสบปัญหาภาวะหนี้สินต่างประเทศอย่างมหาศาล ในปัจจุบัน ไทยจึงต้องประสบวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจอย่างหนัก
เราจึงควรร่วมกันรักษาความเป็นชุมชน รักษา และฟื้นฟูระบบนิเวศ ทำการค้า และการลงทุน ที่เหมาะสมกับสังคมไทย เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจ และสังคมไทย ให้เจริญก้าวหน้าอย่างแท้จริงตลอดไป