การสืบพันธุ์และโครงสร้างที่เกี่ยวกับการสืบพันธุ์
การสืบพันธุ์ของรามีเอกลักษณ์คือ มีการสืบพันธุ์ทั้งแบบไม่อาศัยเพศและอาศัยเพศ การสร้างดอกเห็ดเป็นตัวอย่างหนึ่ง ของการสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศ
โครงสร้างสืบพันธุ์แบบไม่อาศัยเพศ
ราชั้นสูงในไฟลัมแอสโคไมโคตาและไฟลัมเบซิดิโอไมโคตามีการสืบพันธุ์แบบไม่อาศัยเพศ โดยการสร้างสปอร์ที่เรียกว่า คอนิเดียม (conidium) ซึ่งเป็นสปอร์ที่เกิดอยู่ภายนอกไม่มีถุงหุ้ม สปอร์อาจมี ๑ เซลล์ ๒ เซลล์ หรือหลายเซลล์ สปอร์ ที่มีมากกว่า ๑ เซลล์ เกิดจากการสร้างผนังกั้น อาจมีผนังกั้นตามขวาง หรือบางชนิดมีผนังกั้นทั้งตามขวางและตามยาว สปอร์บางชนิดมีสีใสหรือไม่มีสี บางชนิดมีสีเข้มมีกำเนิดจากเซลล์ที่ให้กำเนิดสปอร์ โดยสปอร์อาจเกิดเดี่ยวๆ หรือเป็นกลุ่ม หรือเกิดต่อๆ กันเป็นลูกโซ่ อาจเกิดบนโครงสร้างพิเศษหรือมีโครงสร้างพิเศษห่อหุ้ม ทั้งนี้ ราในไฟลัมแอสโคไมโคตา มีความหลากหลายของรูปแบบสปอร์ มากกว่าราในไฟลัมเบซิดิโอไมโคตา
สปอร์ที่เกิดแบบไม่อาศัยเพศ มี ๑ เซลล์
โครงสร้างสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศ
ราในไฟลัมเบซิดิโอไมโคตาจะสร้างเส้นใยปฐมภูมิ (primary mycelium) งอกมาจากเบซิดิโอสปอร์ (basidiospore) ซึ่งเป็นเส้นใยที่แต่ละเซลล์มีนิวเคลียสอันเดียวที่มีโครโมโซมเพียงครึ่งเดียว มีกระบวนการที่นำนิวเคลียสจาก ๒ เซลล์ เข้ามาอยู่ในเซลล์เดียวกัน เกิดเป็นกลุ่มเส้นใยทุติยภูมิ (secondary mycelium) เห็ดสร้างเส้นใยทุติยภูมิขึ้นมามากมาย สานกันแน่นเกิดเป็นเส้นใยตติยภูมิ (tertiary mycelium) และชูขึ้นมาเป็นดอกเห็ดที่มีรูปร่างแตกต่างกัน การสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศจะเกิดบนดอกเห็ด
ดอกเห็ดส่วนใหญ่มีรูปร่างคล้ายร่ม และมีส่วนประกอบดังภาพ ด้านล่างของหมวกที่มีลักษณะเป็นครีบ มีการสร้างสปอร์แบบอาศัยเพศบนผิวหน้าของแผ่นครีบ
ส่วนประกอบของดอกเห็ดที่มีรูปร่างคล้ายร่ม
เห็ดชนิดอื่นๆ ที่มักพบเสมอจะมีโครงสร้างของดอกที่แตกต่างกัน ดังนี้
เห็ดผึ้ง ด้านล่างของหมวกเป็นรู
เห็ดผึ้ง ดอกเห็ดมีลักษณะอ่อนนุ่ม ด้านล่างของหมวกเป็นรู คล้ายฟองน้ำ ส่วนที่เป็นรูทั้งหมด จะถูกดึงให้หลุดออกจากเนื้อหมวก โดยง่าย
เห็ดหิ้ง ด้านล่างของหมวกเป็นรู
เห็ดหิ้ง ดอกเห็ดมีลักษณะแข็ง ด้านล่างของหมวกเป็นรู การสร้างเบซิดิโอสปอร์ จะเกิดภายในรู ส่วนที่เป็นรูติดแน่นกับเนื้อหมวก ไม่สามารถดึงให้หลุดออกมาได้