เล่มที่ 32
โรคออทิซึม
เล่นเสียงเล่มที่ 32 โรคออทิซึม
สามารถแชร์ได้ผ่าน :

            เด็กออทิสติก จัดอยู่ในกลุ่มเด็กพิเศษ

            เด็กพิเศษ หมายถึง เด็กที่ต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติมจากเด็กอื่น เพื่อให้เด็กเหล่านี้เรียนหนังสือ และใช้ชีวิตร่วมกับเด็กอื่นได้

            เด็กพิเศษ มีหลายกลุ่ม เช่น เด็กสมาธิสั้น เด็กหูหนวก เด็กตาบอด เด็กปัญญาอ่อน เด็กออทิสติก เด็กพิเศษทุกคนจำเป็นต้องได้รับการช่วยเหลือจากครู แพทย์ พยาบาล พ่อ แม่ และเพื่อนในชั้นเรียน การได้รับความช่วยเหลือ จะทำให้เด็กพิเศษเหล่านั้นมีความสุข และไม่เป็นภาระต่อครอบครัว

            เด็กออทิสติก เป็นเด็กที่ครอบครัวต้องรับภาระอย่างมาก เพราะเด็กออทิสติกมีปัญหาหลายอย่าง เดิมไม่มีใครสนใจที่จะช่วยเหลือเด็กเหล่านี้ เขาจึงถูกปล่อยให้เติบโตอย่างมีความบกพร่อง เมื่อเป็นเด็กโตหรือผู้ใหญ่ อาการก็จะมากเข้าขั้นปัญญาอ่อนอย่างรุนแรง


กิจกรรมนันทนาการกลุ่มของเด็กออทิสติกร่วมกับผู้ปกครอง เพื่อส่งเสริมพัฒนาการเด็ก

            ปัญหาของเด็กออทิสติกมีหลายอย่าง ที่สำคัญๆ คือ เด็กออทิสติกมีปัญหาทางสังคม จะเล่นกับคนอื่นไม่เป็น ไม่รู้วิธีเล่น เขาอาจจะเข้ามาตีคนอื่น ทั้งที่อยากจะทักทายหรือเล่นด้วย เด็กเหล่านี้มักพูดตรงๆ ตามที่เขาคิด บางคนไม่เข้าใจว่า สิ่งที่เขาพูดอาจจะทำให้คนอื่นขำ หรือไม่ชอบใจ ถ้าคนใกล้ชิดไม่เข้าใจ ก็จะไม่พอใจได้

นอกจากเด็กออทิสติกจะเล่นกับคนอื่นไม่เป็นทั้งที่อยากเล่นแล้ว เด็กหลายคนก็จะไม่อยากเล่นหรือติดต่อกับใคร ชอบอยู่คนเดียว เล่นอะไรอยู่คนเดียว ไม่พูดคุยกับใคร การเล่นของเด็กออทิสติกมักดูแปลกๆ เขาจะเล่นของเล่นไม่ถูกวิธี เช่น แทนที่จะเอารถมาเข็น ก็กลับเล่นหมุนล้อรถแทน หรือบางทีก็เอาของเล่นมาเรียงต่อกันให้เป็นแนว โดยไม่มีใครรู้ว่า เขาต้องการอะไร ไม่เพียงแต่จะเล่นของเล่นหรือเล่นกับคนอื่นไม่เป็น เด็กออทิสติกยังไม่ค่อยมองหน้าสบตาคนอื่น เวลาพูดคุย หรือเจอะเจอใคร เด็กออทิสติกจะไม่มองหน้า หรือหันหน้าหนี เวลาคุยด้วยบางทีดูคล้ายตื่นเต้น หรือไม่ค่อยมีมารยาท


การเล่นของเด็กออทิสติก มักดูแปลกๆ และจะเล่นของเล่นไม่ถูกวิธี

            ตอนยังเป็นเด็ก เด็กออทิสติกจะไม่รู้จักกอดหรือหอมผู้ใหญ่ ซึ่งต่างจากเด็กทั่วไปที่ชอบให้ผู้ใหญ่อุ้ม แต่เด็กออทิสติกไม่ชอบให้ใครอุ้ม บางคนเหมือนกลัวการมีคนมากอด

            นอกจากสมาคมกับใครไม่เป็นแล้ว เด็กออทิสติกยังมีปัญหาการพูด ที่เป็นมากๆ จะพูดไม่ได้ แม้จะรักษาจนรู้จักเข้าสังคมกับคนอื่น ก็ยังพูดไม่ได้ ส่วนคนที่พูดได้ ก็ไม่รู้จักกาลเทศะ จะพูดโดยไม่รู้จักเอาใจเขามาใส่ใจเรา อาจพูดจาโผงผางเหมือนขวานผ่าซาก คิดอะไรก็พูดออกมาอย่างนั้น

            ภาษาของเด็กออทิสติกส่วนมากจะฟังแปลกๆ อาจใช้คำไม่ถูกต้อง หรือใช้ประโยคผิด

            เด็กออทิสติก ตอนเล็กๆ มักพูดได้ช้ากว่าคนอื่น ก่อนจะพูดได้ บางคนจะมีภาษาส่วนตัว ส่งเสียงที่คนอื่นฟังไม่รู้เรื่อง เมื่อได้รับการรักษา หลายคนก็ดีขึ้น แต่ด้วยความที่เขาไม่ชอบสมาคมกับคนอื่น จึงมักไม่พูดกับใคร เด็กออทิสติกส่วนใหญ่จะพูดได้ก็ต่อเมื่ออายุมากแล้ว


ลักษณะท่าทางแปลกๆ ที่มักพบเห็นได้บ่อยๆ เมื่อเด็กออทิสติกอยู่ในโลกของตนเอง คือ ยืนนิ่งๆ ก้มศีรษะ งอแขนบริเวณข้อศอก และทำข้อมือตก

            นอกจากไม่สมาคมกับคนอื่น และมีปัญหาเรื่องการสื่อสารแล้ว ยังชอบทำอะไรซ้ำๆ ซากๆ ผิดไปจากเด็กอื่น เช่น กินอาหารซ้ำอย่างเดิม เดินทางบนเส้นทางเดิมๆ ความซ้ำซากของเด็กออทิสติกจะมีมากจนดูแปลก และมักเป็นปัญหากับคนรอบข้าง หลายคนแทนที่จะทำอะไรซ้ำซาก กลับทำท่าทางแปลกๆ เช่น กระโดดๆ สะบัดมือไปมา เล่นมือ เล่นหัว

            จากที่กล่าวมาจะเห็นได้ว่า อาการแปลกๆ มีหลายอย่าง แต่พอจะจัดเป็นกลุ่มๆ ได้ ๓ กลุ่ม คือ กลุ่มที่มีปัญหาในการเข้าสังคมกับคนอื่น กลุ่มที่มีปัญหาในการสื่อสาร และกลุ่มที่มีพฤติกรรมที่ซ้ำซากหรือท่าทางแปลกๆ


ตัวอย่างเด็กออทิสติกรายหนึ่ง สามารถตีลังกาใช้มือเดินแทนเท้าได้เป็นเวลานาน

            สมัยก่อนเด็กออทิสติกไม่ได้รับการรักษา ทำให้ไม่สามารถเรียนหนังสือ และใช้ชีวิตร่วมกับผู้อื่นได้ แต่ปัจจุบัน เด็กออทิสติกจำนวนมากได้รับการช่วยเหลือและรักษา จนสามารถเข้าเรียนในโรงเรียน และใช้ชีวิตร่วมกับคนอื่นได้

            สิ่งที่เด็กออทิสติกต้องการมากที่สุด คือ ความเข้าใจ และความเห็นใจ หลายสิ่งหลายอย่างที่เขาทำ อาจทำให้คนอื่นไม่พอใจ หรือไม่เข้าใจ แต่เขาไม่ได้มีเจตนาจะทำไม่ดีกับใคร ทั้งหมดเป็นไปเพราะเขาไม่สบาย จึงไม่เข้าใจว่าสิ่งที่เขาทำ คนอื่นจะรู้สึกอย่างไร

            หากคนในสังคมทั้งผู้ใหญ่และเด็กให้ความเมตตา ใกล้ชิด ติดต่อสื่อสาร สั่งสอน และให้อภัย เด็กออทิสติกก็จะใช้ชีวิตได้อย่างปกติและมีความสุข


ตัวอย่างเด็กออทิสติกที่สามารถทรงตัวโดยใช้มือข้างเดียวยันพื้นได้นานเป็นชั่วโมง