“... จึงเห็นพ่อนี้แลประเสริฐเลิศกว่าบุคคลทั้งหมด พ่อได้ออกบวชอุปสมบทครั้งนี้ เชิญเทพยดาทุกราศีมาช่วยป้องกัน สรรพอันตราย อย่าได้ให้มากล้ำกรายบังเกิดมี ให้สำเร็จในการพิธีบรรพชากิจ เหมือนหนึ่งวาจาข้าพเจ้าประสิทธิไว้ในครั้งนี้ ให้ลั่นฆ้องเข้าสามที โห่ร้องอวยชัย ฯ ...”
(จากบททำขวัญนาค ท่านวัดถนน แต่ง)
เสียงทำขวัญนาค เสียงฆ้อง และเสียงโห่ดังมาจากหมู่บ้าน แสดงว่า มีพิธีเตรียมบวชบุตรชายที่อายุถึง ๒๐ ปีแล้ว เป็นพระภิกษุ ในพระบวรพุทธศาสนา
การบวชเรียนเป็นหน้าที่ของชายไทย ถือว่าเป็นการสนองพระคุณ ของบิดามารดาประการหนึ่ง และอีกประการหนึ่ง การที่ได้ศึกษาเล่าเรียนพระธรรมวินัย และพระพุทธธรรม เป็นการฝึกอบรมตนให้เป็นคนดี
แต่เดิมมายังไม่มีการจัดการศึกษาสำหรับพระเณรอย่างเป็นระบบ วัดใดมีพระสงฆ์ที่ทรงความรู้เชี่ยวชาญทางด้านใด ก็จะถ่ายทอดวิชานั้น แก่ศิษย์ด้วยวิธีการสอนของตนเอง ดังตัวอย่างจากวรรณคดีเรื่อง ขุนช้างขุนแผน เมื่อเณรแก้วไปเรียนวิชา กับสมภารคง ที่วัดแค จังหวัดสุพรรณบุรี ได้เรียนวิชาสะกดทัพจับพล ผูกพยนต์ กำบังตน สะเดาะโซ่ตรวน และตำราพิชัยสงคราม
ต่อมาการศึกษาของพระสงฆ์มีรูปแบบมากขึ้น พระสงฆ์ได้เรียนภาษาบาลี และพระปริยัติธรรม ผู้ที่เรียนสำเร็จตามหลักสูตร ได้เป็นนักธรรม ตรี โท เอก และเปรียญตรี โท เอก
ปัจจุบันระบบการศึกษาของพระสงฆ์มีหลักสูตร และกระบวนการเรียนการสอน ถึงระดับอุดมศึกษา ประเทศไทยมีมหาวิทยาลัยสงฆ์ ๒ แห่ง คือ มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย และมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย มหาวิทยาลัยสงฆ์ทั้ง ๒ แห่ง เป็นแหล่งความรู้ ทางพระพุทธศาสนา เปิดโอกาสให้ภิกษุสามเณร รวมถึงคฤหัสถ์ที่ใฝ่ธรรม ได้ศึกษาเล่าเรียน จนถึงระดับปริญญาดุษฎีบัณฑิต มหาวิทยาลัยสงฆ์ได้ขยายการจัดการศึกษาไปทั่วประเทศ และนานาประเทศ