การปลูกมะพร้าวน้ำหอม
แบ่งออกเป็น ๓ ขั้นตอน ดังนี้
๑. การเตรียมต้นพันธุ์ที่จะใช้ปลูก
ต้นพันธุ์จัดหาได้จากต้นแม่พันธุ์ซึ่งเปลือกมีสีน้ำตาลอ่อน หรือที่ชาวสวนเรียกว่า สีมันปู แล้วนำผลแก่ที่ใช้ทำพันธุ์มาปาดที่ท่อนหัว กว้าง ๑ ใน ๔ เพื่อช่วยให้น้ำซึมเข้าในส่วนของหัวที่ปาด เป็นการเพิ่มความชื้น เร่งให้งอกเร็ว จากนั้นนำผลที่ปาดหัวแล้ว มาเรียง ในแนวเดียวกัน แล้วจึงใช้เศษวัสดุจำพวกพืชที่อุ้มน้ำ เช่น ฟางข้าว ใบไม้ ทางมะพร้าว หรือขุยมะพร้าววางทับลงด้านบน ถ้าเพาะต้นพันธุ์ในฤดูแล้งควรรดน้ำอย่างสม่ำเสมอ แต่ถ้าเพาะในตอนต้นฤดูฝน (เดือนพฤษภาคม) ก็ไม่ต้องรดน้ำบ่อย ใช้เวลา ประมาณ ๔๕-๖๐ วัน จะเริ่มงอก หลังจากออกใบจริงครบ ๔ ใบ ก็สามารถนำไปปลูกได้
เปลือกมะพร้าวสีมันปู เป็นระยะที่เหมาะสำหรับนำไปเพาะเป็นต้นแม่พันธุ์
๒. การปลูก
การเตรียมหลุมปลูกด้วยการขุดหลุมขนาด ๐.๗๕ x ๐.๗๕ x ๐.๗๕ เมตร สำหรับหลุมปลูกในที่ลุ่ม และขนาด ๑ x ๑ x ๑ เมตร สำหรับหลุมปลูกในที่ดอน โดยขุดดินด้านล่างในหลุมนำมาไว้ด้านบน ตากให้แห้ง แล้วนำปุ๋ยหมัก ปุ๋ยคอก และกาบมะพร้าวสับ หรือใบไม้ผุ ลงไปผสมคลุกเคล้ากับดินจนเต็มหลุม จากนั้นจึงวางต้นพันธุ์ให้หันไปในแนวตะวันออก-ตะวันตก และปักหลัก ป้องกันลมโยก รวมทั้งปักหลักเพื่อพรางแสง แล้วจึงรดน้ำให้ชุ่มเพื่อให้พื้นดินมีความชื้นเพียงพอสำหรับต้นพืชที่ปลูก
การชำมะพร้าวน้ำหอมก่อนปลูก
๓. หลังการปลูก
ต้นพันธุ์ที่ปลูกแล้วจะต้องดูแลอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะการปลูกในระบบไร่บนที่ดอน มักจะมีวัชพืชขึ้นรก ทำให้ต้นพันธุ์ชะงักการเจริญเติบโตได้ จึงต้องคอยกำจัดและเก็บวัชพืชออกอย่างสม่ำเสมอ
ร่องน้ำให้ความชุ่มชื้นแก่มะพร้าว
และพืชผักที่ปลูกแซม
การปลูกในระบบที่ลุ่ม ชาวสวนจะนิยมปลูกมะพร้าวน้ำหอม พร้อมไปกับพืชชนิดอื่น ที่เก็บเกี่ยวในระยะสั้น ได้แก่ พวกผักกินใบ เช่น ผักชี คะน้า กะหล่ำปลี ผักกินผล เช่น ฟัก แฟง แตงกวา และ ผักกินหัว เช่น ขิง ข่า ตะไคร้ การดูแลของชาวสวน ในที่ลุ่ม มีการรดน้ำพรวนดินและใส่ปุ๋ยให้มะพร้าว พร้อมไปกับพืชผักที่ปลูกแซมในร่องสวน เป็นการดูแลรักษามะพร้าวด้วย