ความหมายของคำว่า "สารานุกรม" "สารานุกรม" เป็นหนังสือรวมเรื่องราวต่างๆ คำนี้ประกอบด้วยคำ ๒ คำ คือ "สาร" และ "อนุกรม" พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๒๕ ให้นิยามของคำ "สาร" ว่า แก่น เนื้อแท้ ส่วนสำคัญ ข้อใหญ่ใจความ ถ้อยคำ คำว่า "อนุกรม" หมายถึง ลำดับ ระเบียบ ชั้น สองคำนี้รวมกันเข้า โดยวิธีสมาสเป็นคำเดียวคือ "สารานุกรม" หมายถึง เรื่องราวที่เป็นเนื้อแท้ เป็นแก่นสารนำมาเรียบเรียง โดยใช้ถ้อยคำ จัดระเบียบเรื่องแต่ละเรื่องตามลำดับ ให้อยู่ด้วยกันในหนังสือเล่มเดียวกัน หรือหลายเล่มแต่เป็นชุดเดียวกัน คำนี้ใช้เรียกชื่อหนังสืออ้างอิง หรือหนังสืออุเทศประเภทหนึ่ง ลักษณะทั่วไปของหนังสือนี้ คือ อธิบายเรื่องราวต่างๆ ที่มนุษย์ได้เรียนรู้ และได้คิดขึ้นตั้งแต่โบราณสมัย จนถึงปัจจุบัน มีทั้งความรู้ที่จัดเป็นวิชา หรือเป็นศาสตร์ และความรู้ทั่วๆ ไป ที่ควรรู้ หรือน่ารู้ ผู้จัดทำสารานุกรม จะจัดหมวดหมู่ และลำดับความสำคัญของคำอธิบายเรื่องราวเหล่านี้ เรียงลำดับอยู่ในเล่มเดียวกัน หรือชุดเดียวกัน ตามลำดับความสำคัญ ของแต่ละวิชาบ้าง ตามลำดับความสัมพันธ์ของแต่ละวิชา และสาขาวิชาในกลุ่มวิชานั้นๆ บ้าง ตามลำดับตัวอักษรตัวแรกของคำ ซึ่งใช้เรียกชื่อวิชา หรือเรื่องราวนั้นๆ บ้าง หนังสือสารานุกรมเป็นหนังสือซึ่งผู้มีความรู้รับรองกันทั่วไปว่า เป็นหนังสือซึ่งเชื่อถือได้ แม้ว่า สารานุกรมบางเล่มจะมีข้อผิดพลาด หรือล้าสมัย เพราะไม่มีการปรับปรุงแก้ไขเพิ่มเติมข้อมูลใหม่ๆ ให้ทันกาลเวลา และความก้าวหน้าทางวิชาการ ผู้จัดทำหรือผู้รวบรวมสารานุกรมจะเลือกสรรเรื่องราวที่ผู้มีความรู้เชื่อถือได้เป็นผู้เขียน มีหลักฐาน ของการค้นคว้า นำไปอ้างอิงได้ มีวิธีเรียบเรียง ซึ่งทำให้สามารถค้นเรื่องราวที่ต้องการรู้ได้อย่าง รวดเร็ว เช่น มีดัชนีค้นเรื่องอยู่ท้ายเล่ม หรือใน เล่มสุดท้ายของชุด มีการเรียงเรื่องตามลำดับตัวอักษร ตัวแรกของคำที่เรียกเรื่องราวนั้นๆ เป็นต้น การจัดทำหนังสือรวมวิชาความรู้ในสมัยโบราณนั้น เท่าที่ทราบ และมีหลักฐานปรากฏว่า นักการศึกษาชาวโรมันชื่อ พลินี (Pliny) ซึ่งมีอายุอยู่ระหว่าง พ.ศ. ๕๖๖-๖๒๒ เป็นผู้จัดทำขึ้น เขาเรียกหนังสือของเขาว่า ประวัติธรรมชาติ (Natural History) เป็นหนังสือชุด มี ๓๗ เล่ม ๒,๔๙๓ บท และมีเรื่องราว ๒๐,๐๐๐ เรื่อง รวมเรื่องดาราศาสตร์ โลหวิทยา ภูมิศาสตร์ สัตวศาสตร์ แพทยศาสตร์ ศิลปศาสตร์ ประดิษฐกรรม ศิลปกรรม พืชกรรม เวทมนตร์คาถา ฯลฯ เรื่องเหล่านี้ เขาไม่ได้แต่งเอง หากรวบรวมจากหนังสือต่างๆ ที่ผู้รู้หลายร้อยคนเขียนไว้แล้ว พลินีกล่าวไว้ในคำนำของหนังสือชุดนี้ว่า เรื่องของเขามีเรื่องราวทุกเรื่อง ทุกวิชา ที่อยู่ในวงจรการศึกษา ซึ่งชาวกรีกเรียกหนังสือที่รวมวิชาเหล่านี้ว่า เอนไซโคลปีเดีย (Encyclopaedia) ความสำคัญของหนังสือสารานุกรม ความรู้ในวิชาการตลอดจนเรื่องราวข่าวสาร ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับปรากฏการณ์ธรรมชาติ และข้อเท็จจริงต่างๆ ที่เกิดขึ้น โดยพฤติกรรมของมนุษย์นั้น เป็นสิ่งที่ก่อให้เกิดพัฒนาการในตัวคน และสังคม วิชาการเป็นทรัพย์สินทางปัญญาของมนุษยชาติ เป็นแหล่งทรัพยากรที่ใช้ไม่หมดสิ้น ยิ่งใช้ก็ยิ่งเพิ่มพูน พัฒนาการของมนุษย์ตั้งแต่สมัยแรกเริ่ม มาจนถึงปัจจุบัน ได้อาศัยทรัพย์สินทางปัญญาที่บรรพชนสร้างไว้ และบันทึกไว้ เป็นมรดกตกทอดถึงชนในรุ่นปัจจุบัน หนังสือสารานุกรมเป็นหนังสือ ซึ่งรวมวิชาความรู้ และเรื่องราวต่างๆ ที่มนุษย์เรียนรู้ และได้คิดสร้างสรรค์ไว้ทั้งหมด จึงนับเป็นคลังทรัพย์สินทางปัญญา ที่บริบูรณ์ในตัวเอง เปิดโอกาสให้ผู้ใฝ่รู้สามารถอ่าน เพื่อแสวงหาความรู้ ด้วยตนเองได้ทุกเวลา ตามความสามารถของตน เหมือนห้องสมุดขนาดเล็กที่เคลื่อนย้ายได้ ตามผู้เป็นเจ้าของ ความรู้ในหนังสือสารานุกรมที่สร้างขึ้น ในแต่ละยุค แต่ละสมัย จะทันสมัยที่สุด สำหรับยุคนั้นๆ |
นักศึกษาค้นคว้าความรู้จากหนังสือสารานุกรม หนังสืออ้างอิงซึ่งรวมเรื่องราวความรู้ต่างๆ มากมาย |
นอกจากจะเป็นคลังทรัพย์สินทางปัญญา ของมนุษย์แล้ว หนังสือสารานุกรมยังมีส่วนในการสร้าง และพัฒนาวิธีการจัดระบบความรู้ต่างๆ มีการจัดหมวดหมู่ความรู้ เรียงลำดับความสำคัญของความรู้ ชี้ให้เห็นความสัมพันธ์ระหว่างความรู้ในสาขาวิชาต่างๆ การสร้างคำแทนเนื้อเรื่อง และการเลือกคำสำคัญที่มีอยู่ในเรื่องแต่ละเรื่อง มาจัดทำเป็นดัชนีค้นเรื่องท้ายเล่ม หรือในเล่มสุดท้ายของชุด ทั้งเพื่ออำนวยความสะดวกในการค้นหาเรื่องที่ต้องการ วิธีการเหล่านี้ เป็นต้นเค้าส่วนหนึ่งของวิชาบรรณารักษศาสตร์ และสารนิเทศศาสตร์ในปัจจุบัน ปัจจุบันนี้ สารานุกรมเป็นหนังสืออ้างอิง ซึ่งห้องสมุดทุกแห่งจำเป็นต้องมี ผู้สนใจใฝ่หาความรู้บางคน ที่มีกำลังทรัพย์พอจะซื้อไว้เป็นของตน ก็จะซื้อไว้ เพราะจะค้นหาเรื่องราวที่ต้องการได้เกือบทุกเรื่อง ในเวลาจำกัด หนังสือสารานุกรมในปัจจุบัน มีมากมายหลายประเภท หลายรูปแบบ มีทั้งสำหรับเด็ก และสำหรับผู้ใหญ่ และมีหนังสือสารานุกรมทั่วไป และสารานุกรมเฉพาะวิชา |