เล่มที่ 34
เทวสถานโบสถ์พราหมณ์
เล่นเสียงเล่มที่ 34 เทวสถานโบสถ์พราหมณ์
สามารถแชร์ได้ผ่าน :
            วิถีชีวิตและความคิดความเชื่อของคนไทยส่วนใหญ่มีพื้นฐานมาจากพระพุทธศาสนา และมีคติศาสนาพราหมณ์ปะปนอยู่ ที่เห็นได้อย่างเด่นชัด คือ พิธีกรรมต่างๆ ทั้งที่เป็นพระราชพิธีและพิธีมงคลต่างๆ ในสังคมไทย ตัวอย่างเช่น พิธีมงคลสมรส มีทั้งพิธีสงฆ์ สวดมนต์ ถวายภัตตาหาร และการหลั่งน้ำพระพุทธมนต์ ทางด้านศาสนสถาน ก็มีทั้งวัด โบสถ์ วิหาร และมีเทวสถานโบสถ์พราหมณ์ เทวาลัย ศาลพระพรหม ซึ่งใช้ประกอบพิธีกรรมตามคติความเชื่อที่ควบคู่กันไป

            นับตั้งแต่พุทธศตวรรษที่ ๖ ไทยรับเอาศาสนาพราหมณ์มาจากหลายทาง ส่วนใหญ่มาทางตะวันออกคือ จากเขมร เห็นได้จากโบราณสถานหลายแห่ง เช่น ปราสาทพนมรุ้ง ปราสาทหินพิมาย อีกเส้นทางหนึ่งมาทางภาคตะวันตก มีเทวสถานปราสาทเมืองสิงห์ ที่จังหวัดกาญจนบุรี ร่องรอยเทวสถานที่จังหวัดเพชรบุรี และอีกเส้นทางหนึ่งคือ ทางภาคใต้ โดยที่พราหมณ์และพ่อค้าอินเดียได้เข้ามาในอาณาจักรศรีวิชัย มีการค้นพบหลักฐานทางโบราณคดี เกี่ยวกับศาสนาพราหมณ์จำนวนมากที่เมืองนครศรีธรรมราช ซึ่งคณะพราหมณ์ได้เข้ามาประกอบพิธีกรรมในพระราชสำนัก ตั้งชุมชนพราหมณ์อยู่ในเมืองนี้ และพราหมณ์ส่วนหนึ่งได้ย้ายไปตั้งถิ่นฐานอยู่ที่เมืองเพชรบุรี


ปราสาทหิน วัดกำแพงแลง จ.เพชรบุรี มีลักษณะของสถาปัตยกรรมแบบขอม อันเนื่องมาจากคติในศาสนาพราหมณ์ แสดงให้เห็นว่า ศาสนาพราหมณ์ได้เข้ามามีบทบาทในดินแดนนี้

            เมื่อ พ.ศ. ๒๓๒๕ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชทรงสถาปนากรุงเทพฯ เป็นราชธานี พระองค์โปรดเกล้าฯ ให้สืบหาตำราต่างๆ และนำคณะพราหมณ์จากภาคใต้มารับราชการในพระราชสำนัก ทรงรื้อฟื้นพิธีพราหมณ์ และสร้างเทวสถานโบสถ์พราหมณ์ สำหรับพระนครขึ้น ตั้งอยู่เยื้องกับวัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร พร้อมทั้งสร้างเสาชิงช้า เพื่อรักษาธรรมเนียมการสร้างพระนคร ที่จะทำให้มีความมั่นคงแข็งแรง


เทวสถานที่เมืองนครศรีธรรมราช ตั้งอยู่ริม ถ.ราชดำเนิน ต.ในเมือง อ.เมืองฯ จ.นครศรีธรรมราช กรมศิลปากรได้บูรณะขึ้นใหม่ เมื่อ พ.ศ. ๒๕๐๙

เทวสถานโบสถ์พราหมณ์ในไทยแบ่งเป็น ๒ กลุ่ม คือ

๑) กลุ่มเทวสถานที่สร้างก่อนสมัยรัตนโกสินทร์ 

            สร้างประจำเมืองใหญ่เพื่อใช้ในงานพระราชพิธีและการประกอบพิธีกรรมของพราหมณ์ เป็นการสร้างอุทิศถวายแด่พระเป็นเจ้า เช่น พระอิศวรในไศวนิกาย และพระวิษณุในไวษณพนิกาย มีเทวสถานและเสาชิงช้าที่เมืองนครศรีธรรมราชซึ่งปรักหักพังไปแล้ว กรมศิลปากรได้บูรณะขึ้นใหม่ เมื่อ พ.ศ. ๒๕๐๙

๒) กลุ่มเทวสถานในสมัยรัตนโกสินทร์  

            นอกจากเทวสถานโบสถ์พราหมณ์ สำหรับพระนครแล้ว ยังมีเทวสถานที่สร้างโดยชาวอินเดียที่มาพำนักอยู่ในประเทศไทย ได้แก่ วัดพระศรีมหาอุมาเทวี (วัดแขกสีลม) ซึ่งประดิษฐานเทวรูปพระแม่อุมาเทวี วัดวิษณุ ที่เขตยานนาวา มีโบสถ์พระแม่ทุรคา โบสถ์ศิวลึงค์ และโบสถ์พระศิวนาฏราช และศาสนิกชนพราหมณ์ฮินดูได้สร้างเทวสถานชื่อ โบสถ์เทพมณเฑียร ตั้งอยู่บริเวณใกล้เสาชิงช้า กรุงเทพฯ

            เทวสถานในสมัยโบราณส่วนใหญ่มักทำด้วยศิลา และมีส่วนประกอบสำคัญ คือ โคปุระ เป็นซุ้มประตูสำหรับให้ผู้ที่เข้ามา ได้ทำสมาธิบูชาพระเป็นเจ้าอยู่ชั้นล่างสุด ชั้นบนถัดขึ้นมาเป็นที่ประทับเมื่อพระเจ้าแผ่นดินเสด็จฯ เรียกว่า พระมหามณเฑียร ส่วนชั้นสูงสุดเรียกว่า มหาปราสาท เป็นที่ประทับของพระเป็นเจ้า ภายในเทวสถานมักมีการแกะสลักรูปเรื่องราวต่างๆ มีประติมากรรมเทวรูปที่เป็นทั้งศิลปะขอม ศิลปะทวารวดี และศิลปะศรีวิชัย

            เทวสถานโบสถ์พราหมณ์สำหรับพระนคร ตั้งอยู่ที่ถนนดินสอ แขวงเสาชิงช้า เขตพระนคร กรุงเทพฯ สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. ๒๓๒๗ เดิมเรียกว่า เทวสถานสำหรับพระนคร เป็นเทวสถานเรียงกัน ๓ หลัง ได้แก่ สถานพระอิศวร สถานพระพิฆเนศ และสถานพระนารายณ์ มีหอเวทวิทยาคมเป็นห้องสมุดเฉพาะกิจ เก็บรวบรวมสรรพประเพณีและพิธีกรรมต่างๆ บริเวณลานเทวสถานมีเทวาลัยขนาดเล็กตั้งอยู่กลางบ่อน้ำ ประดิษฐานเทวรูปพระพรหม สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. ๒๕๑๔ บริเวณเทวสถานทั้งหมดนับเป็นโบราณวัตถุและโบราณสถานที่สำคัญของชาติ


วัดพระศรีมหาอุมาเทวี หรือที่รู้จักกันทั่วไปว่า วัดแขกสีลม ตั้งอยู่ที่ ถ.สีลม เขตบางรัก กรุงเทพฯ เป็นที่ประดิษฐานเทวรูปพระแม่อุมาเทวี

            ด้านหน้าเทวสถานโบสถ์พราหมณ์แห่งเดิมเป็นลานกว้างอยู่บริเวณด้านหน้าวัดสุทัศนเทพวราราม พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชได้โปรดเกล้าฯ ให้สร้างเสาชิงช้าขึ้นเมื่อวันพุธ แรม ๔ ค่ำ เดือน ๕ ปีมะโรง พ.ศ. ๒๓๒๗ พิธีการสร้างพระนครที่เกี่ยวกับเสาชิงช้า คือ พิธีตรียัมพวาย-ตรีปวาย ซึ่งเป็นพิธีที่มีส่วนของการแสดงตำนานพระพรหมสร้างโลก และมีการโล้ชิงช้า เสาชิงช้านี้มีความสูงจากพื้นถึงยอด ๔๒ เมตร ต่อมา เสาทั้งสองข้างเริ่มชำรุด จึงได้มีการทำพิธียกเสาชิงช้าขึ้นใหม่ และประดิษฐานในที่เดิม เมื่อ พ.ศ. ๒๕๕๐


ผู้ที่เลื่อมใสศรัทธาพระแม่อุมาเทวีมากราบไหว้บูชา และขอพร

พิธีกรรมที่คณะพราหมณ์ประกอบพิธีในเทวสถานที่ยังพอปรากฏอยู่ ได้แก่ พิธีสถาปนาเทวสถานวัดวิษณุ เมื่อ พ.ศ. ๒๕๑๒ ซึ่งมีการประกอบพิธีสำคัญๆ นานถึง ๑๑ วัน เช่น พิธีกรมากุฏิ พิธีชลาธิวาส พิธีอันนาธิวาส พิธีศัยยาธิวาส พิธีเชิญวิญญาณพระเป็นเจ้า และพิธีปูรณหูติ เมื่อเสร็จพิธีดังกล่าวแล้วจึงทำพิธีเปิดเทวสถาน

            พระราชพิธีอันเกี่ยวเนื่องกับศาสนาพราหมณ์ ได้แก่ พระราชพิธีบรมราชาภิเษก ซึ่งมีพิธีโดยย่อ คือ เปิดประตูศิวาลัย ถวายน้ำอภิเษก อัญเชิญพระอิศวรเพื่อประทานพร พิธีสรงพระมูรธาภิเษก การถวายสังวาลพราหมณ์ นอกจากนี้ มีพระราชพิธีตรียัมพวาย-ตรีปวาย ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับพิธีแรกนาขวัญ การเพาะปลูก และการเก็บเกี่ยวพืชพันธุ์ธัญญาหาร โดยมีพราหมณ์เป็นผู้ประกอบพิธี